ทำไม iPhone 11 ถึงน่าซื้อกว่า iPhone XR ที่เพิ่งลดราคาไป?

หลังจากที่เปิดตัว iPhone 11 ไปได้ไม่นาน Apple ประเทศไทยก็ได้ทำการดิ่งราคา iPhone XR ลงไปที่ 21,900 บาท ถูกลงกว่าเดิม 8,000 บาท ทำเอาเจ้าของ iPhone XR ที่ซื้อมาไม่นานต้องมีมือไม้สั่นกันไปเลยทีเดียว บางคนที่ยังไม่มี iPhone XR อยู่ในมืออาจเกิดเป็นคำถามในใจขึ้นมาว่า

หรือเราจะซื้อ iPhone XR ดีวะ?

ถึงแม้ราคาจะลดลงไปยั่วใจใครหลาย ๆ คนเหลือเกิน แต่ทำไม iPhone 11 ถึงน่าซื้อกว่าของลดราคาน่ะหรอ เพราะว่า…

ได้กล้องเพิ่ม 1 ตัว

iPhone 11 มาพร้อมกล้องคู่ ประกอบด้วย

  • 12MP Ultra Wide – 13mm F2.4 มุมกว้าง 120°
  • 12MP Wide cameras – 26mm F1.8

ถ่ายรูปได้น่าสนใจขึ้นกว่าเดิมด้วยมุมกว้าง 120° กว้างกว่าเดิมสองเท่า ทำให้ถ่ายรูปมุมแปลก ๆ สวย ๆ เพิ่มขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ (เหมือนที่ Android ค่ายอื่น ๆ เค้าทำได้นานแล้วนั่นแหละ) แต่ใส่ใจกว่าเพราะว่าระยะของเลนส์ที่มีระยะเป็น 2 เท่าของกันและกัน ทำให้ภาพในช่วงรอยต่อของเลนส์ ต่อกันได้อย่างลงตัว สีไม่เพี้ยน จนผู้ใช้แทบไม่รู้สึกว่ามีไม่ได้สลับเลนส์ที่ใช้ระหว่างซูม


กล้องหน้าชัดขึ้น

ความละเอียดของกล้องหน้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 7MP ที่ใช้ใน iPhone XR เป็น 12MP รวมกับพลังประมวลผลจากชิปเซ็ตใหม่ ทำให้ถ่ายรูปได้สวยกว่ารุ่นก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด …แหงแหละ ก็ความละเอียดเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า และถ่าย Portrait Mode ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ใส่เอ็ฟเฟ็กต์แสงไฟสไตล์สตูดิโอได้ดีกว่าเดิมมาก

ถ่ายเซลฟี่แบบสโลว์โมชั่นได้ด้วยหรือที่ Apple เขาบัญญัติศัพท์ว่า Slofies นั่นแหละ

อ๋อ… อีกเรื่องคือจากเดิมที่ Portrait Mode ที่เคยถ่ายได้ดีแค่คน แต่ตอนนี้ถ่ายสัตว์สี่ขา ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว หรือใดๆ ก็ตามแต่ เป็นทาสสิ่งใด จงถ่ายสิ่งนั้น!


ได้ Night mode ไว้ถ่ายในที่แสงน้อย

ไปเที่ยวเป็นกลุ่มตอนกลางคืนทั้งที จะเซลฟีรูปหมู่ แต่ iPhone ก็ไม่เคยทำได้ ใช้กล้องกลางคืนทีไรถ่ายไม่เคยได้อะไรมาทุกที

แต่ถ้าเลือก iPhone 11 ก็ไม่ต้องกลัวโดนเพื่อนโวยเรื่องกล้องตอนกลางคืนแล้วนะ เพราะเค้าเพิ่ม Night Mode มาให้สำหรับถ่ายรูปในที่แสงน้อยแล้วในรุ่นนี้ (และถึงแม้ Android เขาจะยอมให้มานานแล้วก็ตามแต่ แต่สาวกไอโฟนก็ใจชื้นแล้วล่ะที่เราก็มีบ้าง) ถ่ายได้สว่างขึ้น และ Noise ลดลง


ชิป A13 Bionic แรงที่สุดในโลกกกกก

จากเดิมที A12 Bionic ก็แรงอยู่แล้ว แต่ iPhone 11 มาพร้อมกับชิปประมวลผล A13 Bionic ตัวใหม่ ที่แรงกว่าเดิมทั้งการประมวลผล และการเล่นเกม ทำให้ iPhone ยังคงครองตำแหน่งมือถือที่เล่นเกมได้ดีที่สุดอยู่ เป็นชิปที่ใช้ทั้งใน iPhone 11 Pro และ Pro MAX ด้วย ราคาถูกกว่า แต่ได้ชิปเซ็ตระดับเดียวกันรุ่น Pro เลยนะ

Apple บอกว่านี่คือชิปเซ็ตที่ดีที่สุดในโลกใบนี้แล้ว แรงกว่า S10+ เกือบ ๆ 2 เท่า


เสียงดีกว่าเดิม

ลำโพงของ iPhone 11 ออกแบบใหม่ ทำให้เสียงดีขึ้น มาพร้อมกับระบบ Dolby Atmos กระหึ่มไม่แพ้ใคร


แบตอึดกว่า

iPhone XR ที่ว่าแบตอึดแล้ว ยังไม่สู้ iPhone 11 ที่แบตอึกว่า สามารถใช้งานได้มากกว่า iPhone XR ถึง 1 ชั่วโมงเลยทีเดียวเชียว


จอแข็งแรงกว่า

กระจกด้านหน้าและด้านหลังได้รับการเสริมความแข็งแรงด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนไอออน ทำให้ iPhone 11 มีกระจกจอที่แข็งแกร่งที่สุด ทำให้มันไปต่อสู้กับกุญแจบ้าน หรือของในกระเป๋าได้อย่างสบาย ๆ


มี 6 สีใหม่

เรียกว่าสีใหม่ก็คงไม่ถูก เพราะ iPhone 11 มีสีใหม่แค่ 2 สี คือ “สีเขียว” กับ “สีม่วง” แต่สีที่เหลือถูกปรับเฉดสีใหม่เล็กน้อย ฉะนั้น จะยอมเรียกมันว่าสีใหม่ทั้ง 6 สีก็ได้แหละ

  • ม่วง
  • เหลือง
  • เขียว
  • ดำ
  • ขาว
  • แดง (ProductRED)

iPhone 11 เปิดราคาเริ่มต้นที่ 24,900 บาท ต่างกับ iPhone XR แค่ 3,000 บาท เท่านั้นเอง สำหรับใครที่มีงบประมาณจำกัดจะซื้อ iPhone XR ก็ไม่ว่ากันครับ แต่ถ้าใครไม่มีปัญหาในการเพิ่มเงิน 3,000 บาทนี้ จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก

อ่านบทความอื่น ๆ >> https://ninnygadget.com/

Previous Post
Seagate One Touch SSDSeagate One Touch SSD

Seagate One Touch SSD 2 รุ่นใหม่ พกพาง่าย ดีไซน์สุดเก๋

Next Post

รีวิว Xiaomi Mi 9T Pro