เครื่องดูดฝุ่น Dreame V11 ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นครบ ราคาคุ้ม

Dreame V11

ช่วง Work From Home แบบนี้ อยู่บ้านบ่อย ๆ เข้า ยิ่งทำให้ความรู้สึกอยากทำความสะอาดบ้านเพิ่มขึ้นมาจากปกติเกือบเท่าตัว อาจเป็นเพราะพออยู่บ้านนาน ๆ เข้า แล้วหันไปเจอฝุ่นเอย อะไรเอยเยอะแยะ เต็มไปหมดแล้วอดไม่ได้ ยิ่งอยู่ทุกวันยิ่งเห็นชัดต้องรีบกำจัดตลอด ทั้งหมดนี้เลยเป็นเหตุให้เกิดความอยากหาซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่ม สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย แบบแรงดูดทรงพลัง ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักเบา ขอแนะนำ Dreame V11 อีกหนึ่งแบรนด์ของ Xiaomi เจ้าพ่อแห่งวงการมีทุกอย่างที่คุณต้องการ

ต้องบอกก่อนเลยว่า ก่อนหน้านี้เราทำการเฟ้นหาบวกกับรีเสิร์ชข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องดูดฝุ่นมาเยอะพอสมควร เพื่อหาเครื่องดูดฝุ่นที่ตอบโจทย์กับบ้าน แล้วก็เลยมาเจอ Dreame V11 ก่อนหน้าเคยลองใช้ตัว V25 มาก่อนแล้วประมาณ 1-2 ปี แต่แบตน้องไม่ได้จุมาก ทำให้ดูดได้ไม่ทั่วบ้านแบตก็หมดไปซะก่อน ถ้าจำไม่ผิด ราว ๆ 30 นาทีก็หมด ส่วนในเรื่องของแรงดูดก็น้อยกว่า V11 ประมาณนึงเลย ที่สำคัญเสียงค่อนข้างดังกว่าพอสมควร ทั้งหมดนี้เลยเป็นเหตุผลให้เราเลือกซื้อ V11 ตอนแรกก็มีลุ้นอยู่เหมือนกันว่า สรุปแล้วเสียงจะดังเท่า VC25 อยู่ดีหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่นะ เสียงเบาและเสียงนุ่มกว่าเยอะเลย

Overview

Dreame V11 มีแรงดูด 25,000 PA พร้อมแบตเตอรี่ 3,000 mAh ใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 100% ประมาณ 4 ชั่วโมง (อันนี้ยังไม่ได้ลองทดสอบว่าถ้าไม่ครบ 4 ชั่วโมงจะเต็ม 100% ไหม) ชั้นกรอง 5 ชั้น 12 แกน Self-Cleaning + HEPA Filter และใช้งานได้นานสูงสุดถึง 90 นาที (ตรงนี้เข้าใจว่าน่าจะต้องใช้งานในโหมด Eco นะถึงจะอยู่ได้ถึง 90 นาที) 

อุปกรณ์ภายในกล่อง Dreame V11

อันนี้ต้องบอกว่าคุ้มราคาเลยนะ เพราะอุปกรณ์ภายในกล่อง Dreame V11 เขาให้มาครบมาก มีทั้งหมด 8 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่

  1. Vacuum Cleaner (ตัวเครื่องดูดฝุ่น)
  2. Metal Connecting Rod (ท่อต่อแบบแข็ง)
  3. Soft Tube (ท่อต่อสำหรับพื้นที่ที่ข้อต่อแข็งยื่นเข้าไปไม่ถึง ช่วยให้ข้อต่อยืดหยุ่นและซอกซอนได้มากขึ้น)
  4. Roller Brush (หัวดูดสำหรับดูดพื้น)
  5. Mite Removal Brush (สำหรับดูดไรฝุ่น ทำความสะอาดโซฟาและที่นอน)
  6. 2-in-1 Flat Brush (หัวดูดไซส์เล็กแบบแคบ)
  7. 2-in-1 Brush (หัวดูดไซส์เล็กสำหรับดูดเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ)
  8. Wall Charging Dock (ที่ชาร์จติดผนัง)

จอ OLED บอกสเตตัสเครื่อง

อีกหนึ่งจุดเด่นของ V11 คือมีจอ OLED ที่บอก % แบตเตอรี่ สามารถเลือกโหมดของแรงดูด (แรงดูด 25,000 PA) ได้โดยจอก็จะโชว์เลเวลที่เราเลือกด้วย (มีทั้งหมด 3 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Eco / Med / Turbo) นอกจากนี้ยังสามารถกด Lock เพื่อให้ทำการดูดแบบต่อเนื่องโดยไม่ต้องกดสวิตช์ค้างเอาไว้ได้ด้วย หรือจะกด Unlock เพื่อคุมจังหวะการดูดด้วยตัวเองก็ทำได้

เสียงเบาไม่หนวกหูนาน 

จุดสำคัญที่เรามองหาคือเรื่องของเสียง ที่อยากให้เบาลงหน่อย เพราะว่าเวลาดูดฝุ่นนาน ๆ แล้วค่อนข้างจะรำคาญเลย สำหรับเครื่องดูดฝุ่น Dreame V11 ตัวนี้ ต้องบอกเขาตอบโจทย์เรื่องเสียงเบาได้ดีทีเดียว แถมยังเป็นเสียงที่ค่อนข้าง smooth รู้สึกว่าเสียงไม่เอะอะเท่าตัวก่อนที่เคยใช้

เพิ่มเติมอีกนิด เรามีวิดีโอให้ทดลองฟังเสียง เผื่อใครที่กำลังตัดสินใจ แต่ไม่แน่ใจว่าไอ้ที่ว่าเบามันเบาแค่ไหน หรือยังดังไปสำหรับเรา ให้ลองฟังกันได้เลย

น้ำหนักก็เบากว่าที่คิด

น้ำหนักของตัวเครื่องไม่หนักอย่างที่คิด (ประมาณ 1.6 kg) คอนโทรลค่อนข้างง่ายเลย จะบิดซ้าย-ขวาให้เป็นไปตามความต้องการก็ทำได้ง่าย ๆ แถมลูกกลิ้งที่เป็นหัวดูดพื้นบ้านทั่ว ๆ ไปก็ลื่นไหลมาก ๆ ดูดบนพรมหรือแม้กระทั่งเสื่อก็สบายไม่ติดขัดเลย อ้อ! แต่ถ้าเลือกดูดระดับ Med ต้องเตือนก่อนว่าแรงจริง ๆ ครั้งแรกที่ลองเกือบกินชายผ้าม่านเข้าไปด้วย

นอกจากน้ำหนักจะเบาสำหรับใช้มือเดียวประคองดูดทั้งบ้านได้ แต่เมื่อยนิดหน่อย การถอดเปลี่ยนหัวดูดแต่ละรูปแบบก็ทำได้ง่ายดายมาก ๆ เพราะว่าสังเกตได้ว่าจะมีเขี้ยวด้านใน และวงกลมช่วยระบุตำแหน่งในการถอดเปลี่ยนได้สะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับใครที่อยากได้หัวดูดไรฝุ่น จะบอกว่าตัวนี้ก็มีมาให้เช่นกัน แล้วดูดได้ค่อนข้างโอเคเลย อันนี้ได้มาวันแรก ลองทดสอบดูดโซฟา ก็เห็นผลประมาณนี้เลย

ส่วนใครสงสัยว่าหัวดูดสามารถใช้ร่วมกันได้ไหมกับเครื่องดูดฝุ่นตัวอื่น ๆ ของ Xiaomi ทางเราก็เลยลองเอาไปลองเสียบกับหัวดูดของที่ดูดฝุ่นตัวเก่า ซึ่งก็คือ VC25 ผลคือไม่สามารถใช้ร่วมกันได้

อีกจุดที่ต้องให้คะแนนคือการเปิดตัวเครื่องเพื่อทิ้งเศษฝุ่นที่เราดูดเข้าไปก็สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ ตามวิดีโอด้านล่างนี้เลย ตั้งตำแหน่งของช่องเปิดให้ตรงกับถังขยะ แล้วกดปุ่มเปิด จากนั้นฝุ่นด้านในจะร่วงลงไปเลย ข้อควรระวังคือ ควรถือให้ใกล้กับถังขยะนิดหน่อย กันฝุ่นที่จะฟุ้งขึ้นมา

Wall Charging Dock 

อุปกรณ์เสริมที่ชอบที่สุดนอดเหนือจากหัวดูดไรฝุ่น (ที่เขาบอกว่ากำจัดไรฝุ่นได้ถึง 99.99%) แล้วล่ะก็ ต้องยกให้ Dock ติดผนังที่สามารถชาร์จแบตได้ด้วย คือสายชาร์จที่เขาให้มา เราสามารถเลือกเสียบชาร์จโดยตรงกับตัวเครื่อง หรือชาร์จกับตัว Dock แล้วเอาเครื่องไปเสียบก็ทำได้ นอกจากนี้ Wall Dock ที่ให้มาก็ยังแขวนอุปกรณ์เสริมได้แทบทุกชิ้น เพราะ Dreame ก็มีความออกแบบมาให้อุปกรณ์สามารถปลั๊กกันได้ลงล็อคหมด จะเสียบกับที่แขวน หรือจะถอดเปลี่ยนหัวดูดกับตัวเครื่องก็กดแค่ปุ่มเดียว ลงล็อคง่ายมาก ๆ 

ตัวนี้เราได้ราคามา 6,530 บาท จากร้าน Topvalue ใน Shopee ตอนนั้นได้โค้ดส่วนลด ลดจากราคาเต็มคือประมาณ 7,590 บาท คุ้มมาก

ช่องทางไปซื้อ Dreame V11

สรุปทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ต้องบอกว่าควรค่าแก่การซื้อ ทั้งในแง่ของราคา คุณภาพ และพลังสุดล้ำ ตอบโจทย์แทบจะครบทุกข้อเลย พลังดูดดี ดูดแรง ดูดสะอาดใช้ได้ เปลี่ยนหัวดูดง่าย มีให้เลือกหลายแบบ เสียงดูดค่อนข้างเบา เทฝุ่นทิ้งง่าย และที่สำคัญมี Wall Charging Dock มาให้ด้วย ไม่ต้องวางทิ้งเกะกะ สามารถเสียบกับด็อคได้เลย

Previous Post
สรุป Apple Event

สรุป Apple Event งานเปิดตัวเมษานี้ มีอะไรบ้าง!?

Next Post
จอมอนิเตอร์สำหรับ Work From Home

จอมอนิเตอร์สำหรับ Work From Home สุดมินิมอล Smart Monitor M5